• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 


Article#📢 D51C1 ชนิดของรากฐานในงานวิศวกรรม: คุณสมบัติและจุดเด่นข้อเสีย

Started by kaidee20, May 15, 2025, 04:57 PM

Previous topic - Next topic

kaidee20

รากฐาน (Foundation) เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของส่วนประกอบ เพราะว่าเป็นส่วนที่ช่วยรองรับน้ำหนักรวมทั้งถ่ายโอนแรงทั้งหมดจากส่วนประกอบข้างบนสู่ชั้นดินหรือชั้นหินด้านล่าง การเลือกจำพวกของฐานรากที่เหมาะสมกับลักษณะองค์ประกอบรวมทั้งสภาพดินเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้โครงสร้างมีความยั่งยืนและมั่นคงแล้วก็ไม่มีอันตราย ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงชนิดของโครงสร้างรองรับ คุณสมบัติ จุดเด่น แล้วก็ข้อผิดพลาดของแต่ละชนิด เพื่อช่วยทำให้เข้าใจแล้วก็เลือกใช้งานได้อย่างเหมาะควร



📌👉✨ประเภทของโครงสร้างรองรับ

รากฐานสามารถแบ่งออกได้เป็นสองชนิดหลักหมายถึงฐานรากตื้น (Shallow Foundation) และก็รากฐานลึก (Deep Foundation) โดยทั้งสองประเภทมีความต่างกันในด้านของส่วนประกอบ การออกแบบ แล้วก็การประยุกต์ใช้

1. ฐานรากตื้น (Shallow Foundation)
รากฐานตื้นเป็นโครงสร้างรองรับที่วางอยู่ใกล้กับผิวดิน และเหมาะสำหรับองค์ประกอบที่น้ำหนักไม่มากหรือภาวะดินมีความแข็งแรงเพียงพอ ฐานรากจำพวกนี้ได้รับความนิยมใช้ในองค์ประกอบทั่วๆไป ได้แก่ บ้านพักอาศัย ตึกขนาดเล็ก แล้วก็งานก่อสร้างที่ไม่สลับซับซ้อน

-------------------------------------------------------------
เสนอบริการ Soil Boring Test | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท ทดสอบดิน บริการ เจาะสํารวจดิน วิเคราะห์และทดสอบดิน ทดสอบเสาเข็ม (Seismic Integrity Test)

👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil
👉 Facebook: https://www.facebook.com/exesoiltest/
👉 Website:  เจาะสํารวจดิน
👉 Map: เส้นทาง
-------------------------------------------------------------

แบบอย่างของโครงสร้างรองรับตื้น
-รากฐานแผ่ (Spread Footing): เป็นโครงสร้างรองรับที่มีการกระจัดกระจายน้ำหนักของส่วนประกอบในพื้นที่กว้าง เหมาะสำหรับตึกที่มีคานและก็เสาสร้างบนผิวที่แข็งแรง
-ฐานรากแถบ (Strip Footing): ใช้สำหรับรองรับกำแพงที่มีน้ำหนักค่อยหรือองค์ประกอบที่มีลักษณะเป็นแนวยาว
-ฐานรากแผ่น (Mat Foundation): ใช้สำหรับส่วนประกอบที่อยากได้กระจัดกระจายน้ำหนักในพื้นที่ขนาดใหญ่ อย่างเช่น อาคารสูงในพื้นที่ดินอ่อน

ข้อดีของรากฐานตื้น
-ใช้งบประมาณน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับโครงสร้างรองรับลึก
-ก่อสร้างได้ง่ายรวมทั้งรวดเร็ว
-เหมาะกับพื้นที่ที่ดินมีความแข็งแรง

ข้อผิดพลาดของโครงสร้างรองรับตื้น
-ไม่เหมาะสำหรับพื้นที่ดินอ่อนหรือดินที่มีการเปลี่ยนแปลงภาวะ
-ไม่อาจจะรองรับส่วนประกอบที่มีน้ำหนักมากได้

2. โครงสร้างรองรับลึก (Deep Foundation)
ฐานรากลึกถูกออกแบบมาเพื่อกระจัดกระจายน้ำหนักขององค์ประกอบไปยังชั้นดินหรือชั้นหินที่มีความแข็งแรงอยู่ลึกใต้พื้นผิว เหมาะสำหรับส่วนประกอบขนาดใหญ่หรือพื้นที่ที่ดินมีความอ่อนตัวสูง

ตัวอย่างของรากฐานลึก
-เสาเข็มตอก (Driven Pile): เป็นเสาเข็มที่ถูกตอกลงดินเพื่อเพิ่มความแข็งแรง เหมาะสำหรับส่วนประกอบขนาดใหญ่
-เสาเข็มเจาะ (Bored Pile): เป็นเสาเข็มที่เจาะดินและก็เทคอนกรีตลงไป เหมาะกับพื้นที่ที่ไม่อาจจะใช้เสาเข็มตอกได้
-ฐานรากเสาเข็มลอย (Floating Foundation): ใช้ในโครงสร้างที่ต้องการกระจัดกระจายน้ำหนักในพื้นที่ที่มีการทรุดตัว

จุดเด่นของฐานรากลึก
-สามารถรองรับน้ำหนักของส่วนประกอบขนาดใหญ่ได้
-เหมาะสำหรับพื้นที่ดินอ่อนหรือดินที่มีการยุบ
-เพิ่มความยั่งยืนให้กับองค์ประกอบในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยง

ข้อผิดพลาดของรากฐานลึก
-ค่าใช้สอยสูงขึ้นมากยิ่งกว่าโครงสร้างรองรับตื้น
-ใช้เวลาและเคล็ดวิธีเฉพาะสำหรับเพื่อการก่อสร้าง
-จะต้องอาศัยการสำรวจดินอย่างพิถีพิถันเพื่อป้องกันปัญหาที่บางทีอาจเกิดขึ้น

🦖🌏✅การเลือกโครงสร้างรองรับที่สมควร

การเลือกประเภทของฐานรากขึ้นกับหลายต้นสายปลายเหตุ อาทิเช่น น้ำหนักของโครงสร้าง ภาวะดิน และก็สภาพแวดล้อม การสำรวจดิน (Soil Investigation) เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ช่วยทำให้วิศวกรสามารถประเมินแล้วก็เลือกโครงสร้างรองรับได้อย่างเหมาะสม โดยขั้นตอนการเลือกมีดังนี้:

การวัดน้ำหนักองค์ประกอบ:
ต้องนึกถึงน้ำหนักขององค์ประกอบและก็การใช้งาน อย่างเช่น ตึกพักอาศัย โรงงาน หรือสะพาน
การวิเคราะห์สภาพดิน:
ทำการเจาะตรวจดินแล้วก็ทดสอบคุณลักษณะของดิน อาทิเช่น ความแน่น ความแข็งแรง รวมทั้งการซึมผ่านของน้ำ
สภาพแวดล้อม:
พิเคราะห์สาเหตุที่อาจมีผลต่อฐานราก ตัวอย่างเช่น แรงสะเทือน น้ำหลาก หรือดินถล่ม
ความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ:
เลือกฐานรากซึ่งสามารถรองรับในสิ่งที่ต้องการรวมทั้งงบประมาณ

📢⚡🛒ตัวอย่างการใช้งานในการก่อสร้าง

บ้านพักอาศัย:
ใช้ฐานรากแผ่หรือรากฐานแถบ เนื่องด้วยน้ำหนักขององค์ประกอบไม่มากมาย และสภาพดินมีความแข็งแรง
อาคารสูง:
ใช้เสาเข็มเจาะหรือเสาเข็มตอกเพื่อรองรับน้ำหนักขององค์ประกอบและเพิ่มความยั่งยืนและมั่นคง
สะพาน:
ใช้ฐานรากเสาเข็มลึกเพื่อกระจัดกระจายน้ำหนักของส่วนประกอบไปยังชั้นดินป้อมปราการอาจ
โรงงานหรือคลังที่มีไว้เก็บสินค้า:
ใช้ฐานรากแผ่นหรือเสาเข็มตามลักษณะของน้ำหนักบรรทุกแล้วก็ภาวะดิน

🦖🎯⚡ผลสรุป

การเลือกชนิดของฐานรากที่เหมาะสมนับว่าเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับการสร้างความยั่งยืนรวมทั้งความปลอดภัยให้กับโครงสร้าง โครงสร้างรองรับตื้นเหมาะสำหรับส่วนประกอบขนาดเล็กรวมทั้งดินที่มีความแข็งแรง ช่วงเวลาที่รากฐานลึกเหมาะสำหรับส่วนประกอบขนาดใหญ่หรือพื้นที่ที่ดินอ่อน การวิเคราะห์ภาวะดินรวมทั้งการออกแบบที่สอดคล้องกับมาตรฐานวิศวกรรมเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยทำให้โครงการก่อสร้างสำเร็จได้โดยสวัสดิภาพแล้วก็ยืนยง

กระบวนการทำความรู้ความเข้าใจข้อดีและข้อเสียของรากฐานแต่ละชนิดจะช่วยทำให้สามารถตกลงใจเลือกรากฐานได้อย่างมีคุณภาพ และช่วยลดการเสี่ยงในระยะยาวขององค์ประกอบในระยะยาว
Tags : การเจาะสํารวจชั้นดิน คือ

fairya



Jenny937


dsmol19






Jenny937