ปวดท้องข้างขวา (https://www.rophekathailand.com/post/l/hepheka/right-side-abdominal-pain/) อาจเกี่ยวข้องกับ โรคตับ ที่คุณไม่ควรมองข้าม ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่ขจัดสารพิษ กรองของเสีย และช่วยย่อยอาหาร หากตับมีปัญหา อาจนำไปสู่โรคร้ายแรง เช่น การอักเสบของตับ, ภาวะไขมันสะสมในตับ, เนื้องอกในตับ หรือแม้แต่ ตับวาย ได้
(http://www.rophekathailand.com/wp-content/uploads/2025/03/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B8%B2.webp)
สัญญาณเตือนว่าตับอาจทำงานผิดปกติ 📌 รู้สึกแน่นหรือเจ็บที่ชายโครงด้านขวา
📌 ท้องอืด แน่นท้อง คลื่นไส้ อาเจียน
📌 ผิวและตาขาวมีสีเหลือง ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับตับ
📌 หมดแรงหรืออ่อนเพลียตลอดเวลา
📌 ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระสีอ่อน
📌 น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
โรคตับที่พบบ่อย โรคไขมันพอกตับ เป็นภาวะที่มีไขมันสะสมในเซลล์ตับมากเกินไป อาจเกิดจาก ภาวะที่เกี่ยวข้องกับการดื่มสุรา หรือปัจจัยอื่น เช่น กลุ่มอาการเมตาบอลิก เช่น เบาหวานและคอเลสเตอรอลสูง หากไม่ควบคุม อาจนำไปสู่ โรคตับเรื้อรังและมะเร็งของตับ ได้
ตับเกิดการอักเสบจากหลายสาเหตุ ✔️ เกิดขึ้นจากพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อตับ
✔️ ค่าตับสูง ผิดปกติ ซึ่งสามารถตรวจพบได้จากการตรวจเลือด
การเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในตับ ✔️ ผู้ป่วยบางรายอาจไม่แสดงอาการในช่วงแรก
✔️ เมื่ออาการรุนแรงขึ้น อาจมี
ปวดท้องข้างขวาและเบื่ออาหาร
การป้องกันและลดความเสี่ยงของ โรคตับ ✅ ลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
✅ ลดความเสี่ยงของไขมันสะสมในตับด้วยการควบคุมน้ำหนัก
✅ เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ หลีกเลี่ยงของทอด อาหารมัน และน้ำตาลสูง
✅ ดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกาย
✅ เข้ารับการตรวจสุขภาพตับเพื่อตรวจเช็คความผิดปกติ
ค่าตับสูง อาจเป็นสัญญาณที่ต้องระวัง ✅ ค่าตับสูง อาจบ่งบอกว่าตับทำงานหนักกว่าปกติ
✅ รับประทานอาหารที่ดีต่อระบบเผาผลาญของตับ
✅ ดื่มน้ำให้เพียงพอ
✅ เพิ่มอาหารที่ช่วยเสริมการทำงานของตับ
✅ นอนหลับให้เพียงพอ เพื่อให้ตับซ่อมแซมตัวเอง